ยินดีต้อนรับสู่ Aquamania

      เป็นผลิตภัณฑ์กำจัดตะไคร่ในตู้ไม้น้ำ ตะไครขนดำ ตะไคร่ขนเขียว และตะไคร่เส้นผม ตะไคร่เขากวาง ซึ่งเกิดจากความไม่สมดุลย์ในตู้ไม้น้ำ และยังช่วยเพิ่มปริมาณคาร์บอนในน้ำช่วยเติมเต็มกระบวนการการสังเคราะห์แสงของพืชน้ำ ทำให้เจรฺิญเติบโตได้สมบูรณ์
      วิธีใช้อัตราการใช้ 2 ml. หรือ 1 ปั้ม ต่อน้ำ 10 ลิตร ทุกวันจนกว่าตะไคร่จะหมดไปจากระบบ ควรใช้ 1 ml. ต่อน้ำ 20 ลิตร หลังจากการเปลี่ยนน้ำ เพื่อป้องกันการเกิดตะไคร่ใหม่
      สำหรับตู้ตะไคร่น้อยๆ ให้ใช้ครึ่งโดสเพื่อคุมตะไคร่ ไม่ให้ตะไคร่ลาม หรือ กรณีในตู้มีตะไคร่เยอะมากๆ ใส่ตามโดสหรือโอเวอร์โดสได้นิดหน่อย แต่แนะนำให้ใส่ตามโดสก่อน แล้วค่อยๆเพิ่มปริมาณขึ้น เช่น วันแรกใส่ 4 ปั๊ม วันถัดมาอาจจะใส่ 5 ปั๊ม วันต่อไปถ้าอาการตะไคร่ยังดูแล้วไม่ดีขึ้นก็ใส่ 6 ปั๊มแต่ก็ต้องคอยสังเกตอาการของต้นไม้และสัตว์น้ำในตู้ด้วยว่ามีอาการผิดปกติหรือไม่
      การกำจัดตะไคร่ ผู้เลี้ยงควรช่วยเก็บตะไคร่ที่สามารถเก็บได้ออกด้วย ควรมีสัตว์น้ำที่ทำหน้าที่คุมตะไคร่ เช่น กุ้งแคระ หอยกินตะไคร่ ปลากลุ่มกินตะไคร่ช่วยอีกทาง เปลี่ยนน้ำสม่ำเสมอ
      มีแนวทางการใช้ที่ได้ผลดีคือ ใช้ Algae Clean ช่วยกำจัดตะไคร่ ลดการเกิดตะไคร่ใหม่ ใช้ร่วมกับ Aquamania Pure K เพื่อช่วยให้ต้นไม้สามารถดูดซึมสารอาหารในตู้ได้ดี เมื่อต้นไม้แข็งแรงสามารถสู้กับตะไคร่ได้ ตะไคร่จะลดลงอย่างรวดเร็วโดยเฉพาะกลุ่มขนเขียว

      สำหรับการใช้งานที่ต้องการเน้นการกำจัดตะไคร่เฉพาะจุดและเร่งด่วน สามารถใช้ไซริงค์ดูดยา Algae Clean 1 : 5 (ยา 1 ส่วน น้ำ 5 ส่วน) หลังจากนั้นถ้าเป็นไปได้ให้ปิดกรองเสียก่อน ค่อยพ่นช้าๆ ให้โดนตะไคร่ให้มากที่สุด เท่าที่จะเป็นไปได้ ทิ้งไว้ซัก 10 นาที แล้วค่อยเปิดกรอง ตะไคร่จะตายอย่างรวดเร็ว ถ้ายังไม่หาย ให้ทำซ้ำซัก 3 ครั้ง หรือจนกว่าตะไคร่จะตาย กรณีที่เป็นไม้ที่มีความอ่อนแอร์ เช่น มอส หรือ หญ้ากระดาษ ให้ผสมที่อัตราส่วน 1 : 10 แทน แล้วทำซ้ำซักสองสามวัน
      สำหรับตู้ขนาดใหญ่ปริมาณน้ำมากๆ เช่น ตู้ 36 นิ้วขึ้นไป สามารถใช้เทคนิคนี้ได้ คือ ให้ทำการปิดกรอง แล้วใช้ไซริงค์พ่นยาช้าๆ ค่อยๆให้ตัวยาลงไปโดนตะไคร่ให้เยอะที่สุดเท่าที่จะทำได้ ตะไคร่จะตายเร็วขึ้นมาก แต่สำหรับตู้ที่มีตะไคร่อยู่ทั่วไป ให้เปิดกรองแล้วใส่ยาที่หน้าท่อน้ำออกของกรองเพื่อให้ยาสามารถกระจายได้ทั่วตู้ แต่ต้องระวังไม่ให้เกินโดสสูงสุดของแต่ละตู้ด้วย โดยคำนวณจากปริมาณน้ำและปริมาณยาในการใช้งานแบบมาตรฐาน
      สำหรับตู้ที่ต้นไม้ติดตะไคร่แล้วสามารถยกออกมาได้ ให้ผสมยา 1 ปั๊ม ต่อน้ำ 200ml ใส่ฟ๊อกกี้แล้วพ่นลงบนตะไคร่ ทิ้งไว้ซัก 5 นาทีค่อยใส่กลับลงตู้ หรือ หาภาชนะที่สามารถใส่ต้นไม้ลงไปได้ แล้วผสมน้ำ 2 ปั๊มต่อน้ำ 1 ลิตร แช่ 5 - 10 นาที จะได้ผลดียิ่งขึ้น อย่าแช่นานเกินไป ต้นไม้บางต้นจะทน Algae Clean ไม่ได้ อาจจะตายได้
      สำหรับผู้ที่ใช้เป็นคาร์บอนน้ำ จริงๆ สารเคมีใน Algae Clean สามารถแตกตัวเป็น C (Carbon) ที่ต้นไม้สามารถนำไปใช้ได้ทันที แต่ไม่ใช่ Co2 ต้นไม้ยังต้องการ Co2 เพื่อใช้ในกระบวนการหายใจอยู่ แต่การได้รับ C เพิ่มก็จะทำให้ต้นไม้โตได้ดีขึ้น ผู้ที่ใช้คาร์บอนยีสต์ ปริมาณคาร์บอนในคาร์บอนยีสต์นั้นค่อนข้างน้อย สามารถเอา Algae Clean ไปเสริมส่วนนี้ได้ ต้นไม้ก็จะโตดีขึ้น และได้ประโยชน์จากการกันตะไคร่เกิดใหม่ด้วย

      การใส่โอเวอร์โดสมากเกินไป หรือการคำนวณน้ำในตู้ผิด ในบางตู้ที่มีปริมาณดินหรือหินมากๆ สัดส่วนของน้ำในตู้จะมีน้อย ต้องคำนวณปริมาณยาให้เหมาะสม ไม่เช่นนั้นจะกลายเป็นการโอเวอร์โดสยา มีความเสี่ยงที่กุ้งจะตายได้

      เป็นปุ๋ยธาตุหลัก ที่รวมธาตุอาหารที่จำเป็นสำหรับต้นไม้ คือ N P K เป็นสูตรบาลานซ์ธาตุหลักมาแล้ว ทำให้ต้นไม้โตเร็ว ลดโอกาสการเกิดตะไคร่เมื่อถ้าใช้ตามโดส จะเหมาะกับตู้ที่มีไม้ปริมาณมากๆ สามารถใช้ได้กับไม้น้ำทุกกลุ่ม เช่น ไม้ข้อ มอส เฟิร์น ริคาเดีย พีเลีย ไมยราพ ที่ปลูกแบบผูกหิน บูเซป
       ธาตุ N (Nitrogen) จะเป็นเรื่องของโครงสร้างหลัก ต้นโต แข็งแรง ต้นใหญ่ ปกติจะได้จากการย่อยสลายของเสียในตู้ อาหารปลา หรือแม้แต่น้ำประปาก็มีอยู่บ้าง
      ธาตุ P (Phosphorus) จะเป็นเรื่องของส่วนประกอบของเยื่อหุ้มเซลล์ ผนังเซลล์ ส่วนใหญ่จะได้จากอาหารปลา เป็นธาตุที่จำเป็น แต่ ถ้ามีมากไปก็จะเป็นผลเสีย เพราะตะไคร่จะมาได้เร็วมาก และ โดยปกติจะสามารถหาได้ง่ายในน้ำประปา หรือ ในอาหารปลา
      ธาตุ K (Potassium) จะเป็นเรื่องของการเร่งปฎิกิริยา การดูดซึมปุ๋ยอื่น การเผาผลาญน้ำตาลจากการสังเคราะห์แสง เป็นธาตุที่หาได้ยากจากแหล่งน้ำธรรมชาติ เพราะใช้ในปริมาณมาก แต่มีมาทดแทนได้น้อย ในน้ำประปามีบ้างเล็กน้อย ส่วนใหญ่แล้วจะไม่พอต่อกับความต้องการ
      สำหรับตู้ต้นไม้น้อย หรือ ไม้โตช้า เช่น บูเซป มอส เฟิร์น ใช้สองสามวันปั๊มก็เพียงพอ หรือใส่ทุกครั้งหลังเปลี่ยนน้ำก็ได้ ไม่จำเป็นต้องใส่ทุกวัน
      สำหรับตู้ต้นไม้ปริมาณมากๆ หรือ ไม้โตเร็ว เช่น ไม้ข้อ ไมยราพ ใส่ได้ทุกวันตามโดส หรือวันเว้นวันให้สังเกตุด้วยว่ามีตะไคร่ขึ้นหรือไม่ ถ้ามีตะไคร่ขึ้น แสดงว่าใส่มากเกินไป ให้ปรับลดปริมาณลง

       2 มิลลิลิตร (1 ปั๊ม) ต่อน้ำ 50 ลิตร ทุกวัน หรือ 6 มิลลิลิตร (3 ปั๊ม) ทุก 3-4 วัน หรือ 8 มิลลิลิตร (4 ปั๊ม) ต่อน้ำ 50 ลิตร ทุกสัปดาห์

      สำหรับตู้ที่ต้นไม้ไม่เยอะ เช่น ไม่ถึง 50% ของตู้ หรือมีแต่ไม้โตช้า เช่น บูเซป อนูเบียส คลิป เฟิร์น มอส ให้ปรับไปใช้ 1 ปั๊มต่อน้ำ 50 ลิตร ต่อสัปดาห์แทน เพื่อป้องกันปุ๋ยเกินจนเป็นสาเหตุของการเกิดตะไคร่

      ทำไมมี N P K แล้ว ต้องมี Pure K เพราะว่า K เป็นธาตุที่ต้นไม้มีความต้องการสูง แต่มักจะมีไม่เพียงพอ เราไม่สามารถที่จะเติม Maxima Gold เพื่อให้ K มีปริมาณเพียงพอต่อความต้องการได้ จึงมีความจำเป็นต้องแยกธาตุ K ออกมาเป็น Pure K เพื่อให้สามารถใส่แยกได้นั่นเอง

      ปุ๋ยธาตุรอง เช่น เหล็ก แมงกานีส ทองแดง โบรอน โมลิบตินัม สังกะสี และจุลธาตุอื่นๆอีกหลายชนิด ธาตุรองสำหรับตู้ที่เลี้ยงด้วยดิน ส่วนใหญ่จะไม่ค่อยขาด เว้นแต่ว่าจะเป็นตู้เก่าที่ดินหมดอายุ ตั้งแต่ 1 ปีขึ้นไป หรือ ตู้กรวด หรือสำหรับตู้ที่ใช้น้ำ RO พวกธาตุรองเหล่านี้ก็จะไม่เพียงพอ ต้นไม้จะมีอาการซีด ขอบใบเหลือง ใบเป็นรู ใบตรงโคนต้นร่วงมีแต่ปลายยอด
      สำหรับตู้ที่ต้นไม้เยอะ ให้ใส่ตามโดสได้เลย ตู้ต้นไม้น้อยให้ใส่สองสามวันครั้ง หรือทุกครั้งที่เปลี่ยนน้ำก็เพียงพอ

       2 มิลลิลิตร (1 ปั๊ม) ต่อน้ำ 50 ลิตร ทุกวัน หรือ 6 มิลลิลิตร (3 ปั๊ม) ทุก 3-4 วัน หรือ 8 มิลลิลิตร (4 ปั๊ม) ต่อน้ำ 50 ลิตร ทุกสัปดาห์

      สำหรับตู้ที่ต้นไม้ไม่เยอะ เช่น ไม่ถึง 50% ของตู้ หรือมีแต่ไม้โตช้า เช่น บูเซป อนูเบียส คลิป เฟิร์น มอส ให้ปรับไปใช้ 1 ปั๊มต่อน้ำ 50 ลิตร ต่อสัปดาห์แทน เพื่อป้องกันปุ๋ยเกินจนเป็นสาเหตุของการเกิดตะไคร่

      ปุ๋ยธาตุ K (Potassium) จะเป็นปุ๋ยที่เป็นเรื่องของการดูดซึมปุ๋ยอื่น ช่วยเรื่องการช่วยในการสังเคราะห์แสง กระตุ้นการทำงานของเอ็นไซม์อีกกว่า 80 ชนิดในพืช ช่วยในการสร้างโปรตีน ช่วยในการลำเลียงสารอาหาร K ค่อนข้างหายากในตู้ไม้น้ำ เพราะมีน้อย แต่จำเป็นมากๆในกระบวนการเผาผลาญ การดูดซึมสารอาหาร เมื่อต้นไม้ขาด K ก็จะดูดซึมสารอาหารได้น้อยลง โตช้า เมื่อมีสารอาหารส่วนเกิน ตะไคร่ก็จะเอาไปกินแทน ทำให้ตู้ตะไคร่ขึ้นได้ง่าย
      ธาตุ K เป็นธาตุที่ไม่ค่อยมีปัญหาเรื่องโดส ใส่ตามโดสหรือโอเวอร์โดสได้ ไม่ค่อยมีผลนัก เพราะส่วนใหญ่จะขาดมากกว่าเกิน ให้ใช้ตามสมควรของต้นไม้ในตู้ หรือตามฉลาก

      2 มิลลิลิตร (1 ปั๊ม) ต่อน้ำ 50 ลิตร ทุกวัน หรือ 6 มิลลิลิตร (3 ปั๊ม) ทุก 3-4วัน หรือ 10 มิลลิลิตร (5 ปั๊ม) ต่อน้ำ 50 ลิตร ทุกสัปดาห์

      K (Potassium) เป็นธาตุที่มักจะขาดแคลนในตู้ไม้น้ำ เพราะไม่สามารถหาได้จากแหล่งอื่นๆ นอกจากจะเปลี่ยนน้ำ แต่ด้วยปริมาณการนำไปใช้ของต้นไม้ในปริมาณที่สูง ทำให้หมดไปอย่างรวดเร็ว K จึงเป็นแร่ธาตุที่มักจะขาดอยู่เสมอ ควรใส่ทุกวันสำหรับตู้ไม้เขียว หรือ กรณีที่เป็นตู้ไม้แดง ให้ใส่สลับกันกับ FE+ เพื่อเสริมทั้ง K และ แร่ธาตุต่างๆที่ใช้ในการเร่งสี

      เป็นปุ๋ยที่เน้นเสริมธาตุเหล็ก แล้วยังมีธาตุรอง และ K (Potassium) ที่ถูกปรับมาให้อยู่ในปริมาณที่เหมาะสมกับตู้ที่เน้นไม้แดงเป็นหลัก ช่วยให้สีสันของต้นไม้สดใสขึ้น ไม้แดงจากที่ยอดซีดๆ ก็จะเริ่มแดงขึ้น
      ธาตุเหล็กจำเป็นกับพืชทุกชนิด มีบทบาทสำคัญในการผลิตคลอโรฟิลและเม็ดสี การเผาผลาญ การแตกใบใหม่ การเจริญเติบโตของราก การหายใจ ตู้ไม้น้ำที่มีอาการขาดธาตุเหล็กมักจะแสดงอาการ เช่น ใบเหลือง และการเจริญเติบโตแบบแคระแกรน ธาตุเหล็กช่ายสงเสริมการเจริญเติบโต และเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับผู้เลี้ยงผู้ที่ต้องการให้ไม้น้ำมีสีแดงเข้มมากขึ้น

      2 มิลลิลิตร (1 ปั๊ม) ต่อน้ำ 50 ลิตร ทุกวัน หรือ 6 มิลลิลิตร (3 ปั๊ม) ทุก 3-4วัน หรือ 10 มิลลิลิตร (5 ปั๊ม) ต่อน้ำ 50 ลิตร ทุกสัปดาห์

      FE+ ออกแบบมาเฉพาะเพื่อใช้กับตู้ไม้น้ำที่มีไม้โทนสีแดง หรือไม้ที่สีสันจัดจ้าน บูเซป หรือ สำหรับตู้ที่ต้องการเร่งให้สีไม้สดใส สามารถใช้ได้ทุกวัน หรือ วันเว้นวัน กรณีที่มีไม้ไม่เกิน 50% ของตู้ หรือ ใช้สลับกันกับ Pure K วันเว้นวัน การใช้ FE+ จะทำให้สีไม้สดใส ใบใหม่สีเข้มขึ้น แดงสวยงาม

      เป็นฮอร์โมนที่เสริมการเจริญเติบโตของไม้น้ำ ช่วยในการเริ่มกระบวนการสร้าง เซลล์ใหม่ แตกใบใหม่ กระตุ้นเซลล์ให้ขยายขนาด ช่วยกระตุ้นการแตกราก เพิ่มจำนวนราก และยังลดความเครียดของพืชหลังจากทำการตัดแต่ง

      2 มิลลิลิตร (1 ปั๊ม) ต่อน้ำ 50 ลิตร ทุกครั้งหลังจากเปลี่ยนน้ำ หรือ หลังจากทำการตัดแต่ง

      ตัวฮอร์โมนอาจจะมีตะกอนบ้างเป็นเรื่องปกติ เนื่องจากสกัดจากธรรมชาติ

      Phyto H. จะส่งผลให้ต้นไม้แตกใบใหม่ได้ง่ายขึ้น จะเห็นผลได้อย่างชัดเจนกับตู้บูเซป จะแตกใบใหม่ภายใน 7 วัน ช่วยกระตุ้นไม้ที่ผ่านการขนส่งมาแล้วโทรม ให้แตกราก แตกใบใหม่ได้ไวขึ้น โอกาสรอดจะสูงกว่าปล่อยลงตู้เฉยๆ การใช้งานทั่วไป เพียงใช้ทุกครั้งหลังเปลี่ยนน้ำเพื่อกระตุ้นการเจริญเติบโต หรือ ใส่ทุกครั้งหลังตัดแต่งต้นไม้ เพื่อลดความเครียดของต้นไม้

            เป็นอาหารสำหรับกุ้ง หรือ ปลาขนาดกลาง ขนาดเล็ก แบบจมช้า อุดมไปด้วยคุณค่าทางโภชนาการที่จำเป็น ทำให้พวกเขาแข็งแรง สีสันสดใส

      โปรตีน : ไม่ต่ำกว่า 50%
      ไขมัน : ไม่ต่ำกว่า 9%
      ไฟเบอร์ : ไม่มากกว่า 1.9%
      ความชื้น : ไม่มากกว่า 8%

      ให้วันละ 2-4 มื้อ ห่างกัน 2-3 ชั่วโมง ควรให้ปริมาณที่ไม่มากเกินไป ให้ปลากินหมดก่อน แล้วจึงค่อยๆให้เพิ่ม

       วัสดุรองพื้นสำหรับตู้ไม้น้ำ อุดมไปด้วยธาตุอาหารที่จะค่อยๆย่อยปล่อยออกมาอย่างช้า ๆ ใช้สำหรับรองพื้นปลูก ตู้ไม้น้ำใหม่ ช่วยเสริมการเจริญเติบโตของพืชให้แข็งแรง, กระตุ้นการพัฒนาระบบราก ช่วยให้ต้นไม้เจริญเติบโตแข็งแรง เปลี่ยนของเสียเป็นแร่ธาตุที่พืช นำไปใช้ได้ เสริมให้ระบบภายในตู้ไม้น้ำสมบูรณ์

      เทลงบนพื้นตู้บริเวณที่ต้องการปลูกต้นไม้ หนาประมาณ 1-2 เซนติเมตร จากนั้นเททับด้วยดินสำหรับปลูกต้นไม้ให้หนาอย่างน้อย 2 เซนติเมตร

      Base Start ไม่ต้องล้างน้ำก่อนใช้ เพราะตัวพัมมิสจะมีส่วนผสมของสารอาหารที่คลุกเคล้ามาแล้ว สามารถรองพื้นตู้ไม้น้ำได้ทั้งแบบใส่ถุงตาข่าย หรือ แบบไม่ใส่ก็ได้ เพียงแต่ให้เทดินทับให้สูงซักหน่อย เพื่อป้องกันเวลาเราปลูกต้นไม้ จะได้ไม่ทำให้หินพัมมิสลอยขึ้นมา

      Pure P (Phosphorus) เป็นสารอาหารสำคัญในกลุ่ม NPK ที่ช่วยเร่งการเติบโตของไม้น้ำ ทำให้คุณสามารถเติมฟอสฟอรัสได้ในปริมาณที่เหมาะสมกับตู้ไม้น้ำของคุณ โดยที่ไม่ทำให้ไนเตรตเกินสมดุล ช่วยเสริมให้ไม้น้ำเติบโตแข็งแรงและสวยงามพร้อมทั้งควบคุมตะไคร่น้ำและลดการเกิดตะไคร่จุดเขียวได้อย่างมีประสิทธิภาพ
      ฟอสฟอรัสเป็นปุ๋ยที่ต้องระมัดระวังเรื่องการใช้งาน โปรดใช้อย่างระมัดระวัง เมื่อใส่มากเกินไป ตะไคร่อื่นจะสามารถเกิดขึ้นได้ ให้ใช้ตามสมควรของต้นไม้ในตู้ หรือตามฉลาก
      ถ้าเป็นไปได้ กรณีที่มีอุปกรณ์ในการวัดค่าฟอสฟอรัส ค่าที่แนะนำจะอยู่ช่วงประมาณ 0.5 – 1.0 ppm ในตู้ไม้น้ำ การเติมฟอสฟอรัสควรเริ่มใส่ครั้งละน้อยๆ เช่น 1 ปั๊มก่อน หลังจากนั้นจึงวัดค่าตามความต้องการ ถ้าวัดได้มากเกินกว่า 1.5 ppm ควรถ่ายน้ำออกแล้วปรับค่าใหม่

      2 มิลลิลิตร (1 ปั๊ม) ต่อน้ำ 50 ลิตร ทุกวัน หรือ 6 มิลลิลิตร (3 ปั๊ม) ทุก 3-4วัน หรือ 10 มิลลิลิตร (5 ปั๊ม) ต่อน้ำ 50 ลิตร ทุกสัปดาห์

      P (Phosphorus) เป็นสารอาหารที่ไม่ค่อยขาด เนื่องจากได้รับจากอาหารปลาเมื่อให้เยอะเกินไปปลากินไม่หมดก็จะถูกปล่อยออกมา แต่สำหรับตู้ปลาน้อยๆ จะมีการขาดได้บ้าง โดยจะปรากฎในไม้เช่น ไม้เขียวสีเข้มกว่าปกติ มีใบร่วง ตะไคร่จุดเขียวขึ้นทั่วไป
      การใช้ Pure P ควรที่จะตรวจวัดปริมาณฟอสฟอรัสในตู้เสียก่อน เพื่อป้องกันไม่ให้ฟอสฟอรัสในตู้สูงเกินไป ก็จะเป็นสาเหตุให้เกิดตะไคร่อื่นได้เช่นกัน